วันอาทิตย์, 27 เมษายน 2568

LIGHT  BEAM

22 มิ.ย. 2002
16

วงจรพื้นฐานง่าย ๆ  อีกแบบหนึ่ง
                   ซึ่งทำให้บีมโรบอตวิ่งตามแสงได้

แนวการออกแบบวงจร   จากนิตยสาร Hobby Electronics ปีที่ 11 ฉบับที่ 121 มิ.ย. – ก.ค. 2545

ในการออกแบบวงจรเราต้องวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเสียก่อน โดยหุ่นยนต์ต้องมีความสามารถเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาเสียก่อน เป็นอิสระจากกันและต้องขึ้นอยู่กับแสงที่ให้ด้วย มอเตอร์ต้องเป็นมอเตอร์ที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา แต่มอเตอร์ที่มีขนาดเล็กแม้อาจจะไม่สามารถให้แรงบิดสุงได้ ดังนั้นถ้าเราต้องการให้หุ่นยนต์วิ่งตามแสงได้ อุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ต้องมีขนาดเล็กที่สุดและน้ำหนักเบาที่สุดอีกด้วย จากปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของวงจรหุ่นยนต์เดินตามแสงขึ้นมา
      วงจรออกแบบแม้จะไม่คล้ายกับวงจรที่เคยเห็น แต่ก็สามารถทำให้บีมทำงานได้และเป็นวงจรง่าย ๆ การเลือกที่ไอซีเบอร์ ULN2003 มาเป็นหัวใจหลักของบีมตัวนี้ก็คือ มีราคาถูกสามารถขับกระแสได้ประมาณ 500 มิลลิแอมป์
      ลักษณะการทำงานของ ULN2003 จะเหมือนนอตเกตและยังมีไดโอดป้องกันอีกด้วย โดยไอซีเบอร์นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวขับกระแสและเป็นสวิตซ์เปิดปิดให้มอเตอร์ทำงานหรือหยุดการทำงาน สิ่งที่เราต้องพิจารณามากที่สุดในการออกแบบก็คือแรงดันอินพุตสูงสุดที่จะทำให้ไอซีเบอร์นี้ทำงาน

     รูปที่ 1 แสดงตำแหน่งขาไอซีและแรงดันอินพุต  จะเห็นว่าถ้ามีแรงดันมากกว่าหรือเท่ากับ 2.4 โวลต์  เข้ามาทางอินพุตของเกตภายในไอซี ค่าแรงดันทางด้านเอาต์พุตของเกตภายในไอซีจะเป็นลอจิกต่ำแน่นอน

ซึ่งจะทำให้มอเตอร์ทำงานทันที  การออกแบบภาคตรวจจับแสงทำได้
โดยใช้หลัการแบ่งแรงดันพื้นฐาน ดังรูปที่ 2 โดยพิจารณา LDR
เป็นความต้านทานแบบปรับค่าได้ (ขึ้นอยู่กับแสง)
     VR1 = [ (VCC)R1]/[ LDR1 + R1]     …(1)
     LDR1 หาได้จากการวัดค่าที่พอใจการวัดระยะทางระหว่า LDR และแสงไฟ ดังรูปที่ 3
   ซึ่งในการวัดหาค่า LDR1 ที่ได้จากการวัดนี้เราจะใช้ค่าประมาณ 5 กิโลโอห์ม  เมื่อเราทราบค่า LDR แล้วสิ่งที่ต้องรู้อีกหนึ่งตัวคือแรงดันที่ VR1 ให้เท่ากับ VIN(ON) หรือเท่ากับ 2.4 โวลต์  ดังนั้นจึงสามารถแทนค่าต่างๆ ในสมการได้แต่เราต้องการให้มีการแทนค่าเพื่อหาค่า R1 แปลงสมการที่ 1 ดังนี้
           จาก   VR1  =  [(VCC)R1]/ [LDR1 + R1]
           จะได้  R1  =  [(- VR1)R1]/ [VR1 – VCC]          …(2)
           แทนค่าเพื่อหาค่า  R2 จะได้
                   R2  =  [(-2.4) (5k)]/ [2.4-3]
                         =  20  กิโลโอห์ม
     เมื่อเราได้หาค่า LDR1 และ R1 แล้ว  หากมีแสงเข้ามาในระยที่เราคำนวณไว้ รับรองว่าหุ่นยนต์ของเราจะวิ่งตามแสงได้แน่นอน

หลักการทำงาน

นโครงงานนี้เราจะใช้ตัวตรวจจับแสง LDR ซึ่งตัว LDR นี้มีคุณสมบัติคือ เมื่อมีแสงมาตกกระทบมันค่าความต้านทานภายในจะลดลงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแสงที่ให้ แต่ถ้าไม่มีแสงและมืดมากๆค่าความต้านทานของ LDR ก็จะมีค่ามากด้วยดังรูปที่ 4

วงจรการทำงานดังในรูปที่ 4  ซึ่งมีลักษณะการทำงานดังนี้  

  กรณีที่ 1  เมื่อมีแสงฉายเข้ามาที่ LDR1 และ LDR2 ข้างซ้ายและขวาเท่า ๆ กัน จะทำให้แรงดันตกคร่อม R ค่า 20 กิโลโอห์ม  ทั้งสองตัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2.4 โวลต์ หรือมากกว่าซึ่งจะทำให้ขา 6 และขา 7 ของ IC1 เบอร์ ULN2003 เป็นลอกจิกสูง  ซึ่งไอซีตัวนี้ทำหน้าที่เสมือนนอตเกต  ซึ่งจะทำให้ขา 10 และขา 11 เป็นลอจิกต่ำ  และมีแรงดันไฟบวกรอที่ขามอเตอร์อยู่แล้ว  จะวิ่งผ่านขดลวดของมอเตอร์ทั้งสองลงกราวด์ที่เป็นตัวรับกระแส จึงทำให้มอเตอร์ทั้งสองหมุนพร้อมกัน  ทำให้หุ่นยนต์ของเราวิ่งเข้าหาแสงทันที
  กรณีที่ 2  ถ้า LDR างด้านซ้ายได้รับแสงเพียงข้างเดียว จะเกิดลอจิกสูงที่ขา 7 ของไอซี  ซึ่งจะทำให้มอเตอร์ขวาทำงานทันที เมื่อมอเตอร์ขวาทำงาน จะเคลื่อนที่เอา LDR ทางขวาซี่งไม่ได้รับแสงมารับแสงทันที จึงทำให้สามารถที่จะรับแสงได้เท่ากันและวิ่งเข้าหาแสงได้
  กรณีที่ 3  ถ้า LDR ทางด้านขวาได้รับแสงเพียงข้างเดียวก็จะเกิดลอจิกสูงที่ขา 6 ของไอซี  จึงทำให้มอเตอร์ซ้ายทำงานทันทีและจะเคลื่อนที่เอา LDR ทางซ้ายมารับแสงจึงทำให้ได้รับแสงเท่ากันและวิ่งเข้าหาแสงได้ดังรูปที่ 6 และรูปที่ 7

แนวทางการสร้าง

เนื่องจากวงจรที่เราออกแบบมานั้นมีขนาดที่เล็กและมีอุปกรณ์น้อย  เราจึงสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าหากันโดยตรงได้เลย โดยหาอุปกรณ์ให้ครบตามรายการอุปกรณ์
  การเชื่อมต่ออุปกรณ์ให้ดูตามรูปที่ 8 โดยจะมีมอเตอร์เป็นฐาน การเอียงของมอเตอร์จะช่วยในการถ่ายน้ำหนัก เพราะจะต้องมีการบรรทุกแบตเตอรี่และไอซีทำให้หุ่นยนต์ที่เราสร้างขึ้นมามีการยกระดับให้สูงขึ้นเพื่อความสวยงาม
   การเชื่อมต่ออุปกรณ์ โดยนำไอซีวางบนมอเตอร์ก่อนค่อย ๆ เชื่อมสานต่อต่าง ๆ ตามวงจรและเชื่อมต่อตัวต้านทานและ LDR และใส่แบตเตอรี่ 3 โวลต์ ไว้ด้านบนไอซีเป็นขั้นตอนสุดท้าย  ดัดขาต่างๆ ให้ได้ดังรูป ก็เป็นอันเสร็จการสร้างหุ่นยนต์วิ่งตามแสง

การทดสอบและการใช้งาน

ยกตัวหุ่นยนต์ขึ้น  ฉายไฟฉายไปที่ LDR ตัวซ้าย สังเกตมอเตอร์ทางขวาจะทำงาน ถ้าฉายแสงไฟฉายไปที่LDR ตัวขวามอเตอร์ทางซ้ายจะทำงาน  ถ้าเราทำมาถึงขั้นนี้วงจรทำงานเกือบสมบูรณ์แล้ว และทดสอบครั้งสุดท้าย โดยการฉายแสงไฟไปที่ LDR ั้งสองตัวต้องทำงานพร้อมกันทันที
  และเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเห็นว่าเราน่าจะสามารถปรับแต่งตัว LDR ในการหันรับแสงอย่างไร จึงสามารถตอบสนองต่อแสงได้ดีที่สุด  หรืออาจจะเปลี่ยนระยะการรับแสงได้จากการเปลี่ยนตัวต้านทานตามสูตรที่ให้มา  ลองปรับแต่งกันดูนะครับ  เพื่อจะได้หุ่นยนต์ที่สมบูรณ์แบบ เป็นการออกแบบจากมือของเราเอง
แต่ถ้าเราต้องการให้หุ่นยนต์มีขนาดเล็กกว่าที่เราทำมาข้างต้นเราก็สามารถที่จะทำได้แต่เราต้องประกอบวงจรยากขึ้นอีกนิดหน่อยและเรียนรู้การทำงานของทรานซิสเตอร์อีกนิด
 แต่คงไม่ยากเกินความสามารถของนักอิเล็กทรอนิกส์อย่างเราๆ ดังนั้นจึงขอนำเสนอวงจรที่ใช้ทรานซิสเตอร์ดังตัวอย่างวงจรในรูปที่ 9 เผื่อที่จะได้ลองทำกันดูนะครับ

รายการอุปกรณ์

R1,R2 – 20 k  ตัวต้านทานขนาด1/4 วัตต์ 5%     2 ตัว
LDR1,LDR2 – ตัวตรวจจับแสง                          2 ตัว
IC1 – ไอซีเบอร์ ULN2003                              1 ตัว
มอเตอร์ DC 3 โวลต์ ขนาดเล็ก                        2 ตัว
ลูกยางเทป                                                  3 ตัว
ถ่าน VARTA รุ่น CR123A หรือ Panasonic         1 ก้อน
สวิตซ์เลี่อน                                                 1 ตัว
สายไฟ, ปืนกาว, กาวพลาสติก, ตะกั่ว เป็นต้น

ข้อเสนอแนะ

ถ่านที่ใช้ต้องมีน้ำหนักเบาและขนาดค่อนข้างเล็กให้กระแสที่สูง ดังนั้นหุ่นยนต์ต้นแบบที่ทำขึ้นมานั้นได้ทดสอบกับถ่านของ VARTA รุ่น CR123A ซึ่งมีแรงดัน 3 โวลต์ และมีกระแส 1300 มิลลิแอมป์ และถ่านของ Panasonic Lithium (ราคาถูก) 3 โวลต์ หาได้จากร้านอิเล็กทรอนิกส์แถว ๆ บ้านหม้อหรือจากร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป
  ทีนี้เราก็จะได้เจ้าหุ่นยนต์ตัวจิ๋วที่วิ่งเข้าหาแสงเป็นของเล่นอีกหนึ่งชิ้น ซึ่งเราสามารถทำขึ้นและออกแบบเองได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจเลยทีเดียว